วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

กล้วยหอมนมสดปั่น



เงินลงทุนเริ่มต้น : 1,000 – 2,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 30 - 50 บาท/แก้ว

อุปกรณ์
1.เครื่องปั่นน้ำผลไม้
2.ถ้วยตวง 1 คัฟ
3.แก้ว 22 ออนซ์

วัตถุดิบ
1.น้ำเชื่อม 2 ช็อต
2.กล้วยหอมสุก
3.นมสด
4.น้ำแข็ง สูตรน้ำเชื่อม ใช้น้ำ 750 ซีซี เคี่ยวกับน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม

ขั้นตอน
1.ใส่น้ำเชื่อม 2 ช็อตลงในคัฟภาชนะตวง
2.ใส่กล้วยหอมสุกที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
3.ใส่นมสดจนเต็ม 1 คัฟ
4. เทส่วนผสมทั้งหมดลงใน เครื่องปั่นตามด้วยน้ำแข็ง
5.ปั่นให้ละเอียด และ เป็นเนื้อเดียวกัน
*เครื่องปั่นคุณภาพดี น้ำแข็งจะละเอียดน่าทาน
6.บรรจุใส่ถ้วย พร้อมเสริฟ

สถานที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ :
ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทำเบอร์เกอรี่ ,
ซุปเปอร์มาเก็ต ,ตลาด

น้ำสมุนไพร



เงินลงทุนเริ่มต้น : 400 – 500 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 500-1,000 บาท/วัน

วัตถุดิบ :
ส่วนผสมน้ำดอกอัญชัน
1. น้ำเปล่า 2 ลิตร
2. น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
3. ดอกอัญชัน 1 ขีด
4. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำแอปเปิ้ล ตามชอบ

ส่วนผสมน้ำกระเจี๊ยบ
1. น้ำเปล่า 2 ลิตร
2. น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
3. ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 1/2 ขีด
4. เกลือ 1 ช้อนชา

อุปกรณ์
1. หม้อ
2. ถุงชงกาแฟ สำหรับช้อนกากสมุนไพรออก
3. กระบอกตวง
4. ช้อนตวง
5. เตาแก๊ส

ขั้นตอนการทำ น้ำอัญชัญ
1. ตวงน้ำใส่หม้อต้ม 2 ลิตร ปิดฝา ตั้งไฟให้น้ำเดือด
2. ทำความสะอาดดอกอัญชัน แล้วใส่ดอกอัญชันลงไปต้ม ให้สีสันของดอกออกเป็นสีน้ำเงิน
3. ช้อนกากดอกอัญชันออก ให้เหลือแต่น้ำ
4. ใส่น้ำตาลทรายครึ่งกิโลกรัม คนให้น้ำตาลละลาย
5. ตามด้วยน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ ตอนใส่น้ำมะนาวลงไป ซึ่งมะนาวจะมีกรด ทำให้สีน้ำอัญชัญเปลี่ยนเป็นสีม่วงสวยงาม
6. ใส่น้ำแอปเปิ้ล ลงไปแต่รสชาติให้หอมและอร่อยยิ่งขึ้น
7. ทิ้งไว้ให้เย็น
8. พร้อมบรรจุขวด หรือ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง

ขั้นตอนการทำ น้ำกระเจี๊ยบ

1. ตวงน้ำใส่หม้อต้ม 2 ลิตร ปิดฝา ตั้งไฟให้น้ำเดือด
2.ใส่ดอกกระเจี๊ยบแห้งลงไปในน้ำเดือด
3. คนให้สีของดอกกระเจี๊ยบแดงออก แล้วช้อนดอกกระเจี๊ยบเอากาก ออก
4. ใส่น้ำตาลทรายครึ่งกิโลกรัม คนให้น้ำตาลละลาย เติมเกลือเล็กน้อย
5. ทิ้งไว้ให้เย็น
6. พร้อมบรรจุขวด หรือ เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง

สถานที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ :
ร้านจำหน่ายสมุนไพรแห้ง ,
หรือ ปลูกเอง

เต้าหู้นมสด


เงินลงทุนเริ่มต้น : 500 – 1000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 1,500 บาท/วัน

วัตถุดิบ :
ส่วนผสมการทำตัวเต้าหู้
1. น้ำสะอาด 4.5 ลิตร
2. นมสด 1 กระป๋อง
3. น้ำตาลทราย 100 กรัม
4. ผงเจลาติน ใช้ช้อนขนาด 6 ซีซี (1 ช้อน)
5. ผงวุ้น ใช้ช้อนขนาด 6 ซีซี (2 ช้อน)
6. สารแต่งกลิ่นวลิลา ใช้ช้อนขนาด 3 ซีซี (3 ช้อน)

ขั้นตอนการทำเต้าหู้
1. นำน้ำใส่หม้อ ต้มให้น้ำเดือด
2. ใส่ผงเจลาติน ใช้ช้อนขนาด 6 ซีซี (1 ช้อน) ลงไป พร้อมคนน้ำเพื่อไม่ให้ผงเจลาติดติดเป็นก้อน
3. ใส่ผงวุ้นลงไป ใช้ช้อนขนาด 6 ซีซี (2 ช้อน) ,ใส่สารแต่งกลิ่นวลิลา ใช้ช้อนขนาด 3 ซีซี (3 ช้อน) หรือกลิ่นอื่น ๆ ตามชอบ
4. เติมน้ำตาลทรายลงไป 3 ขีด แล้วคนให้น้ำตาลละลาย ,ตามด้วยนมข้นหวาน 1 กระป๋อง และนมสด 1 กระป๋อง พอเดือดก็ยกลงจากเตา
5.นำหม้อไปพักแช่ในน้ำเย็นพร้อมคนไปด้วย เพื่อให้อุ่นก่อนจะตักใส่ถ้วย

ขั้นตอนการทำนมสด
1. นำน้ำใส่หม้อ ต้มให้น้ำเดือด
2. ใส่นมสด 4 กระป๋อง,ใส่น้ำตาล 3 ขีด แล้วคนให้น้ำตาลละลาย และต้มให้เดือดได้ที่ และยกลงจากเตา
3. นำหม้อพักแช่ในน้ำเย็นใส่

การบรรจุลงภาชนะ
1. เตรียมภาชนะ
2. เทวุ้นเต้าหู้ ลงในถ้วยประมารครึ่งถ้วย และพักทิ้งไว้รอให้วุ้นเต้าหู้แข็ง ใช้เวลา 20 นาที
3. ใส่เครื่อง ถั่วแดง , วุ้นมะพร้าว, มันไข่เชื่อม โรยหน้าลงไปบนวุ้นเต้าหู้
4. เทน้ำนมสดในลงไปให้เต็มถ้วย ปิดฝาภาชนะ และนำไปแช่เย็น เพื่อให้อร่อยยิ่งขึ้น

สถานที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ :
ร้านจำหน่ายขนมเบเกอร์รี่ ,
ตลาดสด

ชาชัก

เงินลงทุนเริ่มต้น : ประมาณ 10,000 บาท
(เตา, แก๊ส, โต๊ะเก้าอี้ภายในร้าน, อุปกรณ์ใส่ส่วนผสมต่างๆ)

รายได้ : ในศูนย์การค้าประมาณวันละ 3,000-4,000 บาท

วัตถุดิบ :
1. แป้ง 1 กิโลกรัม
2. เนย 1 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. นมข้นหวาน ครึ่งถ้วย
5. นมสด ครึ่งถ้วย
6. เกลือ ครึ่งช้อนชา

อุปกรณ์
1. กระทะ
2. เตา
3. ตะหลิว

ขั้นตอน
1. ใส่น้ำร้อนที่อุ่นเล็กน้อย ลงในภาชนะ
2. ใส่เนยลงไปละลายกับน้ำ
3. ใส่นมข้นหวานลงไปผสม คนให้เข้ากัน
4.ใส่นมสด คนให้เข้ากัน ไปเรื่อย ๆ
5. ใส่ไข่ไก่แล้วตี ให้เข้ากัน
6. ใส่เกลือ และใส่แป้ง เทน้ำลงไปผสมอีกเล็กน้อย นวดให้เข้ากัน ดีแล้ว พักไว้ครึ่งชั่วโมง
7. หลังจากพักไว้ให้ปั้นเป็นก้อน ๆ ในภาชนะ แล้วใช้เนยทา พักๆไว้ก่อนนำไปทอด
8. ก่อนทอดต้องตีแป้งให้แผ่ขยายออกเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วพับเป็น 4 มุมกลม ๆ
9. กระทะร้อนได้ที่ใส่เนยลงบนกระทะทอดแป้งโรตี จนได้ที่
10. ตีหรือตบโรตีให้ฟู พร้อมโรยนม หรือ น้ำตาล หรือ โรยหน้าต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ

สถานที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ :
เตาแก๊สบริเวณสำเพ็งมี
ให้เลือกหลายร้าน,
อุปกรณ์อื่นๆสามารถหาซื้อ
ได้ตามร้านค้าทั่วๆไป


ธุรกิจร้านกาแฟ วิธีทำ Ice Latte


เงินลงทุนเริ่มต้น : ลงทุนทำธุรกิจร้านกาแฟ 50,000 บาทขึ้นไป

รายได้ : โดยประมาณ 100,000 – 300,000 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดร้านและทำเลร้าน)

วัถุดิบ :
1. น้ำเชื่อม 1 ช๊อต (วิธีการทำน้ำเชื่อมใช้
น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม เคี่ยวกับ น้ำ 750 ซีซี)
2. นมสดจืด
3. แก้ว 22 ออนซ์
4. เมล็ดกาแฟ
5. เครื่องชงกาแฟ
6. เครื่องบดเมล็ดกาแฟ

ขั้นตอน
1. บดเมล็ดกาแฟด้วยเครื่องบด โดยบดให้ละเอียดแบบกลาง ๆ ไม่ละเอียดหรือหยาบไป เพื่อให้ได้รสชาติ ที่หอมและอร่อย
2. ใช้เครื่องมือในการแพคผงกาแฟ อัดให้แน่น เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ดี และได้กาแฟที่มีคุณภาพ
3. นำไปใส่หัวเครื่องชงกาแฟ และ กดสวิทซ์ ให้น้ำไหลผ่าน เนื้อกาแฟ ที่หัวเครื่อง เราก็จะได้น้ำกาแฟออกมา ใช้ 2 ช๊อต
4. ใส่น้ำเชื่อม 1 ช๊อต ผสม กับกาแฟที่ได้มา 2 ช๊อต ตามด้วยนมสดจืด ให้ได้พอดี กับ 1 คัฟ คนให้เข้ากัน
5. เทใส่ลงในแก้ว 22 ออนซ์ พร้อมจำหน่าย

สถานที่ซื้อวัสดุอุปกรณ์ :
ร้านจำหน่ายขนมเบเกอร์รี่ ,
เครื่องชงกาแฟ และเมล็ดกาแฟ
หาซื้อได้ทาง Internet


วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

ขนมจีบหมู

เงินลงทุนเริ่มต้น:
3,000 – 5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 500 - 800 บาท/วัน

วัถุดิบ :
1. หมูสับ 2.5 กิโลกรัม
2. แป้งมัน 1.5 ช้อนโต๊ะ
3. พริกไทย 5 ช้อนชา
4. ผงปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
5. ซอสปรุงรส 1 ถ้วยตวง
6. น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
8. ต้นหอม
9. มันแกว ครึ่งกิโลกรัม
10. แป้งห่อเกี๊ยว
11. น้ำมันพืช

อุปกรณ์
1. ถ้วยตวง
2. ช้อนตวง
3. ถาด
4. แผ่นพลาสติก

ขั้นตอน
1. นำมาใส่ในภาชนะเตรียมผสม นำน้ำตาลเทใส่ลงไปในเนื้อหมูสับ
2. ใส่น้ำปรุงรสผสมลงไป
3. ตามด้วยผงปรุงรส
4. ตามด้วยพริกไท
5. ตามด้วยแป้งมัน
6. ตอกใส่ไข่ไก่ 1 ฟอง
7. นวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
8. ใส่มันแกวและต้นหอมตามลงไปนวดให้เข้ากัน เพื่อให้รสชาติ ซึมเข้าไปในเนื้อหมู
9. พักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
10. วิธีการห่อไส้ นำแผ่นเกี้ยวตัดขอบให้ได้รูปทรบคล้ายวงกลม เพื่อเวลาห่อให้เกิดความสวยงาม ตักหมูใส่ลงในแป้งเกี้ยวแล้วจับจีบห่อหมูให้หมูพอดีกับขอบแป้งเกี้ยว
11. พอห่อหมู่เสร็จก่อนวางลงนถาด ต้องจุ่มน้ำมันพืช ก่อนวางเพื่อไม่ให้ติดกับซึ้งนึ่ง
12. ก่อนนำไปนึ่งลง ต้องพรมน้ำ เพื่อไม่ให้แป้งเกี้ยวแข็งตัว
13. นำไปนึ่งโดยตั้งน้ำให้เดือนร้อนแล้ววางซึ้งที่เราวาง ขนมจีบเรียงไว้ วางเป็นชั้น ๆ ปิดฝา ประมาณ 15 นาที
14. พอเสร็จได้ที่ ก็ทาน้ำมันพืช เพื่อไม่ให้ขนมจีบติดกัน และ หน้าขนมจีบจะออกมาสวยงาม โรยกระเทียมเจีย ทานพร้อมกับน้ำซอสเปรี้ยว

คุ๊กกี้ไส้สับปะรด

เงินลงทุนเริ่มต้น:
300,000 บาท (เป็นอุสาหกรรม)

รายได้ : โดยประมาณ 100,000 บาท/เดือน

วัตถุดิบ :
1. ไส้สับปะรดกวน
2. ไข่ไก่ 6 ฟอง
3. เนยเหลือง 1 กิโลกรัม
4. แป้งสาลี 2 กิโลกรัม
5. ผงฟู ครึ่งช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลไอซ์ซิง 1 กิโลกรัม
7. น้ำเปล่า ครึ่งถ้วยตวง
8. สารแต่งกลิ่นวลิลา 1 ช้อนโต๊ะ
9. ผงนม 1 ช้อน
10. สีผสมอาหาร 10 ช้อนชา
11. เกลือ 3 ช้อนชา

อุปกรณ์

1. ไม้พาย
2. ถ้วยตวง
3. เครื่องชั่งตวง
4. เครื่องนวดแป้ง

ขั้นตอนการทำแป้งคุ๊กกี้
1. นำเนยเหลืองใส่ลงไปในเครื่องนวด
2. ตามด้วยเกลือ
3. ใส่สีผสมอาหาร 10 ช้อนชา
4. ตอกใส่ไข่ 6 ฟองลงไปผสม
5. ใส่สารแต่งกลิ่นวลิลา
6. ใส่น้ำเปล่าผสมลงไป
7. นำไปตีผสมส่วนประกอบให้เข้ากัน สักประมาณ 5 นาที
8. ระหว่างตีสวนผสมก็นำน้ำตาลไอซ์ซิง เทใส่ แล้วตีให้เข้ากัน เป็นเนื้อเดียวกัน
9. ตามด้วยแป้ง ผงฟู และ ผงนม ผสมลงไป แล้วเทใส่เครื่องนวด ให้เครื่องนวดทำงาน 5 นาที นวดจนเข้ากัน
10. การปั้น โดยเริ่มจากปั้นไส้คุกกี้ ไว้กลม ๆ เล็ก ๆ พักไว้
11. นำแป้งมาปั้นให้กลมเช่นกัน แล้วทำให้แบน ๆ นำไส้สับปะรด ไว้ตรงกลาง แล้วปั้นให้เป็นทรงรี ขนาดเท่า ๆ กันทุก ๆ ชิ้น
12. นำไปกลิ้งกับแบบแม่พิมพ์ให้เป็นลาย เพื่อความสวยงาม เรียงไว้กับถาด ให้ห่างกันเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ติดกัน
13. นำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที
14. นำออกจากเตาทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
15. บรรจุลงกล่อง พร้อมจำหน่าย


ซาลาเปา ไส้หมูสับ

ซาลาเปา ไส้หมูสับ
วันนี้กะเอาเป็นพวกขนมๆให้ก่อนครับ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
3,000 – 5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 2,000 บาท/วัน

ส่วนผสม :
ไส้หมูสับ
1. หมูสับ 2.5 กิโลกรัม
2. มันแกว ครึ่งกิโลกรัม
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
5. พริกไทย 5 ช้อนชา
6. ซอสปรุงรส 1 ถ้วยตวง
7. ผงปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
8. แป้งมัน 1.5 ช้อนโต๊ะ
9. ต้นหอม

ส่วนผสม แป้งซาลาเปา

10. แป้งอเนกประสงค์ 1 กิโลกรัม
11. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
12.น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
13. เนยขาว 100 กรัม
14. ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
15. เกลือ 1 ช้อนชา
16.ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
17. สีผสมอาหาร สีชมพู

อุปกรณ์

1. ถ้วยตวง
2. ช้อนตวง
3. ที่คีบ
4. กระดาษรองก้นซาลาเปา
5. กะละมัง
6. ซึ้งนึ่ง

ขั้นตอน การทำไส้หมูสับ
1. นำหมูสับมาใส่ในกะละมัง ตามด้วยใส่ น้ำตาลทราย , ซอสปรุงรส ,ผงปรุงรส,พริกไทย ,แป้งมัน และตอกใส่ไข่ไก่ 1 ฟอง นวดส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
2. จะใส่ส่วนผสมที่เหลือ มันแกว และ ต้นหอมซอย ลงไป เคล้าให้เข้ากัน นำไปหมักพักทั้งไว้ 1 ชั่วโมง

ขั้นตอน การทำแป้งซาลาเปา
1. นำส่วนผสมมาผสมในกะละมัง มีน้ำตาลทราย ,ยีสต์ ,เกลือ,ผงฟู,น้ำเปล่า คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน
2. เทแป้งอเนคประสงค์พอประมาณลงกะละมังใหญ่ แล้วเทส่วนผสมทั้งหมดที่คนเข้ากันแล้วมาเทลงแป้ง จากนั้นก็นวดแป้งให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้ว ค่อย ๆเติมแป้งอเนคประสงค์ ทั้งหมดนวดให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อนุ่ม และ จากนั้นพักแป้งทิ้งไว้ให้ขึ้นฟู จึงค่อยนำไปใส่ไส้ได้
3. ก่อนที่จะห่อ ให้นวดไล่ฟองอากาศออกด้วย จับแป้งขั้นมาปั้นเป็นกลม ๆ กดให้แบนเป็นกลม ๆ ตักไส้หมูสับวางลงบนแป้งห่อ แล้ว จับจีบ หมุนซาลาเปาไปรอบ ๆ เพื่อให้ได้รูปที่กลมสวยงาม แล้ววางลงบนกระดาษรองก้นซาลาเปา
6. นำซาลาเปาวางเรียงบน ซึ้งนึ่ง และนำไปนึ่ง 20 นาที ก็จะได้ซาลาเปาที่ออกมาน่ารับประทาน เพื่อการง่ายต่อการจำไส้ต่าง ๆ ก็แต้มสีลงบนซาลาเปา เพื่อให้รู้ว่าเป็นไส้อะไร ตอนจำหน่าย


ขนมโมจินมสด

เงินลงทุนเริ่มต้น:
เงินลงทุน 300,000 บาท (เป็นอุตสาหกรรม)

รายได้ : โดยประมาณ 100,000 บาท/เดือน

วัตถุดิบ:
1.นมข้นหวาน 3 กระป๋อง
2. ไข่ 4 ฟอง
3. เนยขาว 2 ขีด
4. ผงโซดา 1 ช้อนชา
5. สารแต่งกลิ่น 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำเปล่า 5 ช้อนโต๊ะ
7. แป้งสาลี
8. ไส้ขนมโมจิ เป็นใสถั่วเขียว กวนกับน้ำตาลให้เข้ากัน

อุปกรณ์
1. ตาชั่ง
2. เครื่องนวดแป้ง

ขั้นตอน
1. ใส่ส่วนผสม นมข้นหวาน ,ไข่, เนย, น้ำเปล่า,สารแต่งกลิ่น, ผงโซดา
2. ใส่เครื่องตีให้เข้ากันประมาณ 5 นาที
3. หลังจากส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากัน แล้วค่อยเติมแป้งแล้วตีให้เข้ากัน อีกประมาณ 3 นาที
4. ปั้นไส้ขนมโมจิ ให้ขนาดตามต้องการ เป็นขนาดกลม พักไว้
5. นำแป้งทำแบน ๆ แล้วนำไส้ใส่ไว้ด้านใน และหุ้มด้วยแป้งห่อไส้ขนมวางเรียงบนถาดภาชนะ
6. แต้มสีบนโมจิ เผื่อความสวยงาม
7. นำเข้าเตาอบ โดยใช้ไฟ 200 องศา อบใช้เวลา ประมาณ 30 นาที
8. หลังจากอบเสร็จผึ่งไว้ประมาณ 2 ชม. ให้โมจิเย็นตัวก่อนเพื่อไม่ให้เป็นไอน้ำ เวลาบรรจุใส่กล่อง
9. นำมาเรียงใส่บรรจุลงกล่อง

ลูกชุบ

ทำลูกชุบ
เงินลงทุนเริ่มต้น:
ประมาณ 50,000-60,000 บาท

เครื่องกวน 20,000 บาท / ตู้แช่ 20,000 บาท / หม้อต้มวุ้น 1,500 / เตาแก๊ส 2 ถังประมาณ 3,000

รายได้ : ประมาณเดือนละ 20,000 บาท

ส่วนประกอบ:
1. ถั่วเขียว
2. น้ำตาลทรายขาว
3. หัวกะทิที่คั้นจากมะพร้าว
4. ผงวุ้น
5. สีผสมอาหาร สีต่าง ๆ ผสมน้ำ

อุปกรณ์
1. โฟมเสียบลูกชุบ
2. ไม้ไผ่เหลา
3. บล็อกขนม
4. เครื่องมือสร้างลวดลาย
5. หม้อกวนถั่วและไม้พาย
6. หม้อนึ่งถั่ว

ขั้นตอน
1. นำถั่วเขียวไปแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ถั่วนิ่มอ่อนตัวเพื่อเตรียมไปนึ่งให้สุก โดยรองด้วยผ้าขาวบาง นึ่งด้วยไฟปานกลางใช้เวลา 30 นาที
2.นำถั่วที่นึ่งสุก ใส่ในน้ำตาลกับกะทิ ที่ผสมกัน แล้วกวนต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง
3. ผึ่งถั่วที่กวนแล้ว ให้เย็น ได้ที่
4. ใช้บล็อกปั๊มถั่ว เพื่อสำหรับกะขนาดให้เท่า ๆ กัน นำปั้นเป็นรูปทรงต่างๆ แล้วแต่ตามใจชอบ
5. พอปั๊นถั่วเสร็จ ก็เอามาเสียบไม้ พักไว้
6. ผสมวุ้น จากน้ำ 1 ลิตร / น้ำตาล 1/2 กก. / ผงวุ้น 50 กรัม นำไปตั้งไฟคนให้เข้ากัน หลังจากนั่นพักวุ้นไว้ประมาณ 10 นาที
7. นำลูกชุบที่เตรียมไว้ นำไปชุบสีผสมอาหาร ตามใจชอบ
8. พอสีแห้งแล้วก็นำนำลูกชุบ ลงชุบวุ้นที่ต้มไว้แล้ว
9.หมุนวุ้นให้สม่ำเสมอ พักไว้ให้แห้ง พร้อมบรรจุใส่กล่อง ติดตราสินค้าให้สวยงาม


บลูเบอรี่ชีสพาย

เงินลงทุนเริ่มต้น:
5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 15,000-30,000 บาท/เดือน

วัตถุดิบ:
- แครกเกอร์ ขนาด 220 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- เนยละลาย 80 กรัม
- ครีมชีส 250 กรัม
- มะนาว 1 ช้อนชา
- นมข้นหวานผสมนมจืด 2 ช้อนชา
- บลูเบอรี่กระป๋อง 1 กระป๋อง

ขั้นตอน การทำพายครัสต์
1. นำ แครกเกอร์ ใส่ถุงพลาสติก และบดให้ละเอียด
2. ใส่ส่วนผสม น้ำตาล 1 ช้อน และเนยละลายด้วยไมโครเวฟ 1 ก้อน ลงในแครกเกอร์ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. นำ แครกเกอร์ ใส่ภาชนะแบบพิมพ์ กดให้แน่น และเสมอกันดี นำไปเข้าตู้เย็นให้แข็งตัวใช้เวลา 1 ชั่วโมง

ขั้นตอนการครีมชีสพาย
4. ใส่ครีสชีสลงในถ้วย และ ใช้เครื่องปั่นให้เหลวเล็กน้อย
5. เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา และ นม 2 ช้อนชา ตีให้ส่วนผสมเข้ากันดี
6. นำครีมชีส ที่ผสมเสร็จแล้ว ทาลงบนพายครัสต์ที่แช่แข็งไว้ ให้หนาตามชอบ และใส่บลูเบอรี่ 2 ช้อน ให้อร่อยยิ่งขึ้นนำไปแช่เย็นอีกครั้ง พร้อมรับประทาน หรือจำหน่ายได้

หมูสเต๊ะสมุนไพร

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,000-2,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 200 - 250 บาท/กิโลกรัม

อุปกรณ์ :
1. เขียง
2. ช้อน
3. ไม้เสียบ
4. เตาแก๊ส
5. หม้อ
6. กล่องบรรจุ

ส่วนผสมการทำหมูสะเต๊ะ
1. เนื้อหมูสันนอก 1 กิโลกรัม (เสียบหมูได้ประมาณ 50 ไม้)
2. ผงหมักสะเต๊ะ 1 ซอง

ขั้นตอนการทำหมูสะเต๊ะ
1. ล้างหมูให้สะอาด สไลด์หมูตามแนวขวาง เป็นชิ้น จะได้หมูมีลักษณะเป็นเส้นตรง
2. เทผงผมักลงไปในหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. นำหมูมาเสียบไม้ โดยเอาส่วนของมันไว้ด้านในสุดของไม้ เรียงไว้บนถาด และ พักทิ้งไว้ หรือแช่ตู้เย็น ประมาณ 1-2 ชม.

ส่วนผสมการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
1. น้ำกะทิ หัวกะทิ 1/2 ถ้วย และหางกะทิ 2 ถ้วย
2. พริกแกง 1 ช้อนโต๊ะ
3. ถั่วลิสงคั่วป่น 1 ถ้วย
4. งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
6.เกลือ 1 ช้อนชา
7.ผงหมัก 1/2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
1. เคี่ยวกระทิจนแตกมัน ใส่พริกแกง ลงไป เคี่ยวจนน้ำพริกออกสีแดงมัน เคี่ยวจนเดือด
2. ใส่ถั่วลิสงป่น , ใส่งาขาว คนให้เข้ากัน
3. เติมหางกะทิ , น้ำตาลทราย , เกลือ ,ผงหมักสะเต๊ะ คนให้เข้ากันจนเดือดได้ที่ ปิดไฟ พักทิ้งไว้ก็ใช้ได้

ส่วนผสมการทำอาจาด
1. น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง
2. เกลือ 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
4. แตงกวา
5. หัวหอมแดง
6. พริกชี้ฟ้า

ขั้นตอนการทำอาจาด
1. หั่นแตงกวา พริกชี้ฟ้าเหลืองตามขวาง เอาเม็ดพริกออก ตามด้วยหอมแขกหั่นตามขวาง
ชี้ฟ้า
2. นำน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือป่น ใส่รวมกัน คนจนละลาย เทน้ำอาจาดลงลบผักเครื่องเคียง พร้อมทานคู่กับหมูสะเต๊ะได้เลย

วิธีการย่างหมู
1.นำหมูสะเต๊ะ ที่หมักได้ที่แล้ววางลงบนเตา แล้ว ทาหัวกะทิบนหมู ทั้ง 2 ด้าน เพื่อความหอมมันและเนื้อหมูที่นุ่มนวล
2. แพ็คใส่กล่อง หรือ วางบนจาน ทานพร้อมกับน้ำจิ้มทั้ง 2 อย่างที่เตรียมไว้


กระเพาะปลาน้ำแดง ยอดมะพร้าว

เงินลงทุนเริ่มต้น:
5,000 บาท

รายได้ : 10,000-20,000 ต่อเดือน

วัตถุดิบ :
1.กระเพาะปลา 1.5 กิโลกรัม
2.ยอดมะพร้าวต้ม 3 กิโลกรัม
3.น้ำซุป (รากผักชี+พริกไทยดำ+โครงไก่ เคี่ยว 3 ชม.)
4.เห็ดหอมหั่น 2 ขีด
5.เลือดไก่ 5 ก้อน

เครื่องปรุง
1.ซอสปรุงรส 1 ถ้วยตวง
2.ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 2 ขีดครึ่ง
4. คนอร์ 1 ขีดครึ่ง
5.แป้งถั่วเขียว 4 ขีดครึ่ง
6. แป้งท้าว 4 ขีดครึ่ง

เครื่องโรย
1.น่องไก่ตุ๋น
2.ไข่นกกระทา
3.แปะก๊วย
4.เส้นหมี่

อุปกรณ์
1.ถ้วยตวง
2.เครื่องชั่ง
3.ถ้วยสำหรับใส่จำหน่ายและ สามารถไมโครเวฟ
4.อุปกรณ์ตัดใส่ถุง
5.ทัพพี
6.ถุง
7.หม้อ ขนาดเบอร์40

ขั้นตอน
1.นำซอสปรุงรสใส่ลงในน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยว 3 ชั่วโมงแล้ว
2.ใส่ซีอิ๊วดำ, น้ำตาล และคนอร์รสไก่ คนให้เครื่องปรุงลายเข้ากัน
3.ปิดฝาหม้อและรอจนเดือด เติมกระเพาะปลา ให้หั่นพอดีคำ ลงไปในน้ำซุป และต้มห้เดือดอีกที
4.ผสมน้ำ 1 ขันลงในแป้งถั่วเขียว และ แป้งท้าว และคนให้แป้งละลาย
5.เทแป้งทีละครึ่ง ลงในหม้อที่เดือดแล้ว แล้วคนให้แป้งมีลักษณะใสก่อนแล้วค่อย ๆ เทแป้งส่วนที่เหลือลงไป คนให้เข้ากัน
6.ตามด้วยใส่เห็ดหอม รอให้เดือด และลดไฟลงปานกลาง พักไว้
7.หั่นเลือดไก่เป็นชิ้นพอคำ ใส่ลงในหม้อ
8 .ตามด้วยใส่ยอดมะพร้าว ลงในหม้อ
9.ใส่ไข่นกกระทา ใส่ทีละน้อย ๆ ยังไม่ต้องใส่หมด แล้วค่อยเติม อีกทีในเวลาจำหน่าย
* เวลาเติมไข่ให้ตั้งบนเตา หากเติมตอนออกจากเตาแล้วจะทำให้เสียรสชาติ
10.ใส่ไก่ตุ๋นลงในชามก่อน แล้วจึงใส่น้ำกระเพาะปลา
11.ใส่เครื่องโรย พริกไทย , ผักชี , แป๊ะก๊วย พร้อมเสริฟรับประทาน

*ไข่นกกระทาให้ 1 ฟองต่อ 1 คน เพราะมีแคลลอรี่สูงมาก
*แปะก๊วยคนละ 5 ลูก
*ตุ๋นไก่ ใส่ซอสปรุงรส ซีอิ๊วดำ น้ำตาลเล็กน้อย คนอร์ ตุ๋นออกมาจะนุ่ม รับประทานง่าย

ขั้นตอนใส่กล่อง
1.ใส่ไก่ตุ๋นลงไปก่อน แล้วจึงใส่น้ำกระเพาะปลา
2.ใส่พริกไทย, ผักชี, แปะก๊วย
3.ปิดฝากล่องให้สนิท


ขายข้าวมันไก่

เงินลงทุนเริ่มต้น:
20,000-30,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 25,000 – 35,000 บาท/เดือน

วัตถุดิบ :
1. ไก่ตอน 1 ตัว
2. เลือดไก่ 3 ก้อน

วัตถุดิบน้ำจิ้ม
3.เต้าเจี้ยว
4. กระเทียมสับ
5. ขิงซอย
6. ข่าซอย
7.พริกขี้หนู
8. น้ำมะนาว
9. น้ำตาล

วัตถุดิบการหุงข้าว
10. ใบเตย
11. พริกไทย
12. เกลือ
13. รากผักชี
14. ข้าวหอม
15. เครื่องเคียง : แตงกวา , ผักชี

อุปกรณ์
1. มีดและเขียง
2. หม้อหุงข้าว
3. เครื่องปั่น
4. หม้อและเตา

วิธีการต้มไก่ตอน
1. นำน้ำตั้งไฟให้เดือน และ ใส่ไก่ลงไปในหม้อทั้งตัว ปิดฝา ต้มทิ้งไว้ 1-2 ชม. ระหว่างต้มไก่ หากน้ำเดือดมากต้องหรี่ ไฟปานกลาง และต้มต่อ อาจจะต้องมีการปรุสรส ใส่เกลือเล็กน้อยลงไปด้วย

วิธีการทำน้ำจิ้ม
1. ใส่ส่วนผสมลงในเครื่องปั่น กระเทียม ,พริกขี้หนู , เต้าเจี้ยว,ขิงและข่าซอย, เติมน้ำมะนาว, น้ำตาล และปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปรุงรสชาติให้กลมกล่อม

วิธีการทำข้าวมัน
1. ตักมันไก่จากน้ำที่ต้มไก่ช้อนขึ้นมา เพื่อนำไปใช้หุงข้าว
2. ทำการซาวข้าว และ ทิ้งพักข้าวไว้ให้สเด็ดน้ำ
3. ใส่ข้าวลงไปในหม้อ ปริมาณ 2 ถ้วยครึ่ง ตามด้วย ขิงหั่นเป็นแว่น ๆ ,พริกไทย,รากผักชี, เกลือ,ใบเตยสด และใส่มันไก่ลงไป ในสัดส่วนที่สูงขนาดเท่ากับข้าว แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน ปิดฝาหม้อแล้วทำการหุง

การจัดจานพร้อมเสริฟ
1. ตักไก่ขึ้นจากซุป นำมาพักให้เสด็จน้ำ
2. ทำการสับไก่
3. ตักข้าวมัน อัดใส่ถ้วย เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม แล้วคว่ำ ลงในจาน
4. สับไก่และเรียงไก่ลงในจาน สับเลือดใส่ , เรียงแตงกวา และโรยผักชี ให้น่ารับประทาน
5. ตักน้ำซุป ใส่สาหร่าย พร้อมเสิร์ฟ


วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

เครื่องประดับ ลวดดัดแฮนด์เมด

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,000 – 5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 200 - 300 บาท/ชิ้นงาน

อุปกรณ์การทำกำไล :

1. ลวดทำโครง
2. ลวดเส้นเบอร์เล็ก
3. คีมตัด
4. คีมปากแบน
5. คีมม้วน
6. คีมปากจิ้งจก
7. ลูกปัด
8. หินเทอร์คอยส์
9. มุก
10 .ประการัง

ขั้นตอน
1. ตัดลวดเส้นเล็ก นำไปพันเข้ากับโครงลวดกำไลที่เตรียมไว้ ในส่วนต้นของกำไลก่อน
2. ร้อยลูกปัดใส่เส้นลวด ให้ขนาดยาวพอประมาณ แล้วพับปลายลวดเพื่อไม่ให้ลูกปัดไหลออก
3. ทำการพันลูกปัดเข้ากับโครงลวดกำไล โดยการไล่เม็ดลูกปัดให้อยู่ด้านบน
แล้วพันไปเรียงให้เป็นแถว ต่อกันไปเรื่อย ๆ จนสิ้นสุดโครงลวดกำไล
พร้อมเก็บปลายให้เรียบร้อย อย่าให้ปลายลวดยื่นออกมาอาจจะทำให้เวลาใส่เครื่องประดับอาจเกิดอันตรายได้
4. การทำตัวดอกเพื่อไปติดกับตัวกำไล เริ่มจากตัดลวดเส้นเล็ก ยาวประมาณ 12 นิ้ว
5. ร้อยเม็ดเทอร์คอยส์เข้าไปในเส้นลวด แล้วพับปลายเส้นลวดลงมา โดยเหลือปลายสัก 4 นิ้ว
ใช้คีมจับเพื่อยึดให้เม็ดเทอร์คอยส์ ถูกมัดแน่นไปกับเส้นลวด
6. ร้อยเม็ดเทอร์คอยส์ พันกับลวดแบบเดิม ไปสัก 5 กลีบ เพื่อให้เป็นตัวดอกไม้
7. นำส่วนปลายลวดที่เหลือ ร้อยเม็ดประการัง ทำเป็นเกษรตรงกลาง ของดอกไม้
และพันลวดไปกับตัวกลีบดอกไม้เพื่อยึดเกษรให้แน่น
8. ร้อยมุก สีขาว ประดับเกษรให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ใช้มุก 9 เม็ด ร้อยต่อ ๆกัน
นำมาวนรอบเม็ดประการัง เกษรสีแดง และพันลวดยึดไปกับกลีบดอกไม้เช่นกัน
9. ทำดอกไม้เช่นเดิม 3 ดอก เพื่อนำไปตกแต่งที่ตัวโครงกำไล
10. การติดดอกไม้ที่ตัวกำไล ใช้ปลายลวดที่เหลือ ยึดติดกับลูกปัดที่เราร้อยไว้กับโครง
แล้วเก็บปลายลวดโดยซ่อนเข้าไปกับตัวโครงให้เรียบร้อย ทำเช่นเดียวกันให้ครบ 3 ดอก
11. ดัดกำไลให้เป็นวง โดยใช้วัสดุที่มีทางกลม มาเป็นแบบ เพื่อง่ายต่อการดัด เป็นอันเสร็จสิ้นการทำ





woonhandmade
เครื่องประดับ ลวดดัดแฮนด์เมด
โหลด VDO คลิก

ยาหม่องสมุนไพร

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,000 – 2,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 100 - 180 บาทต่อขวด

วัตถุดิบ

1. ว่านนางคำ
2. ไพร
3. มะกรูด
4. ขมิ้น
5. ขมิ้นอ้อย
6. ตะไคร้
7. ใบบัวบก
8. น้ำมันพืช หรือ น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันงา
9. พิมเสน
10. การบูน
11. เมนทอล
12. พาราฟิน
13. วาสลีน
14. น้ำมันยูคาลิปตัส
15. น้ำมันระกำ
16. มีด ,เขียง ,ตา ,กระทะ

ขั้นตอน
1. หั่นสมุนไพรแต่ละชนิด โดยการฝานบาง ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ ทุกอย่างนำผสมรวมกัน

2. นำน้ำมันพืชเทลงในภาชนะตั้งเตาจนเดือด แต่ต้องคนให้น้ำมันจากสมุนไพรออกมาและมีกลิ่นหอม
เพื่อให้ได้น้ำมันสมุนไพร เคี้ยวประมาณ 20 นาที
แล้วกรองเอากากของสมุนไพรออกไปเหลือแต่น้ำมันใส ๆ เท่านั้น

3. นำส่วนผสมต่าง ๆ มาผสม : พาราฟีน วา สลีน,เมนทอล,การาบูน,พินเสน,ยูคาลิปตัส,น้ำมันระกำ
ตามสัดส่วนพอเหมาะ และสุดท้ายก็ผสมน้ำมันจากสมุนไพร
ลงไปด้วยกัน แล้วนำไปตั้งไฟ เคียวจนส่วนผสมละลาย เป็นเนื้อเดียวกัน

4. นำยาหม่อง ขึ้นมาพักทิ้งไว้ให้อุ่น ๆ แล้วบรรจุขวด ตามขนาดที่จะจำหน่าย
รอให้ยาหม่องในขวดเย็น และจับตัว ปิดฝาพร้อมจำหน่ายได้

สรรพคุณของสมุนไพร

ว่านนางคำ สรรพคุณ ส่วนราก ขับเสมหะ แก้ลงท้อง เป็นยาสมาน
แก้โรคหนองในเรื้อรัง ส่วน หัว ขับลมในลำไส้ แก้เม็ดผื่นคัน แก้ฟกช้ำ
แก้ปวดท้อง แก้ข้อเคล็ด เคล็ดยอก แก้หนองใน ทาฝี แก้ต่อมทอนซิล
และต่อมน้ำลาย อักเสบ แก้ฟกช้ำบวม ส่วน ไม่ระบุส่วนที่ใช้ แก้ฟกช้ำ
เคล็ดขัดยอกฟกบวม กระทุ้งพิษ แก้เม็กผื่นคัน ขับลมในลำไส้ แก้ปวดท้อง
ขับเสมหะ แก้ท้องร่วง แก้หนองใน แก้มดลูกอักเสบ

ไพร สรรพคุณ รักษาอาการเคล็ดขัดยอก ข้อเคล็ด ข้อเท้าแพลง
ฟกช้ำบวม ช่วยขับระดู ประจำเดือนสตรี เลือดร้าย แก้มุตกิตระดูขาว แก้อาเจียน แก้ปวดฟัน

มะกรูด สรรพคุณ แก้ลมหน้ามืด แก้ลมวิงเวียน บำรุงหัวใจ ขับลมในลำไส้
ขับระดู ขับผายลม

ขมิ้น สรรพคุณ ช่วย ทำให้แผล หายเร็วขึ้นมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
ลดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย มีฤทธิ์ต้าน
เชื้อ แบคทีเรียทีทำให้เกิดหนอง มีฤทธิ์ขับน้ำดีช่วยในการย่อยและป้องกันไม่ให้ เป็น
นิ่วในถุงน้ำดี มีฤทธิ์ขับลม

ขมิ้นอ้อย สรรพคุณ แก้ครั่นเนื้อครั่นตัว สมานลำไส้ แก้ระดูขาว ขับปัสสาวะ
ตำพอกแก้ฟกบวม แก้ อักเสบ แก้พิษโลหิต แก้ลม รักษามะเร็งปากมด ลูก
มะเร็งในรังไข่ มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็ง ต่อมไทรอยด์
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เนื้องอกที่ กล้ามเนื้อมดลูก แก้เลือดคั่ง
เลือดลมไหลเวียน ไม่สะดวก รักษาระดูมาไม่ปกติ เหง้าสดตำผสม
การบูรเล็กน้อย ดองน้ำฝนกลางหาว รินเอาน้ำ หยอดตา แก้ตาแดง ตาแฉะ ตามัว ตาพิการ

ตะไคร้ สรรพคุณ ใช้เป็นยารักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะและแก้อหิวาตกโรค
หรือทำเป็นยาทานวดก็ ได้ และยังใช้รวมกับสมุนไพรชนิดอื่นรักษาโรคได้
เช่น บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และขับเหงื่อ

ใบบัวบก สรรพคุณ แก้ช้ำใน ทำให้หายฟกช้ำได้ดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ
ลดอาการปวดศรีษะข้างเดียว บำรุงสมอง แก้ความดันโลหิตสูง แก้อ่อนเพลีย
เมื่อยล้า บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ และขับปัสสาวะ


yamhong ยาหม่อง
โหลด VDO คลิก

การบูรหอม

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,000 – 5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 10-30 บาท/ชิ้นงาน

อุปกรณ์ :

1. การบูร
2. กรวย
3. ไม้บรรทัด
4. กรรไกรฟันปลา ,คัสเตอร์
5. ดินสอ ,ปากกา
6. ปืนกาว
7. หัวตุ๊กตา
8. โบว์ ริบบิ้น
9. กระดาษสา
10. แบบตุ๊กตา
11. จักรเย็บผ้า

ขั้นตอน
1.นำกระดาษสา มาพับ ตามขนาดที่ต้องการ และตัดให้กระดาษ ใกล้เคียงกับแบบ เตรียมไว้ก่อน
2. พับกระดาษกึ่งกลาง และวางแบบลงบนกระดาษสา
3. เย็บกระดาษตามรอยที่ได้วาดไว้ โดยเว้นช่องไว้สำหรับกรอกใส่การบูรลงไป
4. ใช้กรรไกร ตัดเว้นออกมาจากลอยเย็บ ประมาณ 1 ซม.
5. นำกรวยมาไว้ที่ช่องของกระดาษสาที่เย็บ เว้นช่องเอาไว้ แล้วกรอก การบูรลงไป 1 ช้อน แล้วใช้ไม้สอดให้การบูรลงไปให้เต็ม
6. การตกแต่ง โดยเริ่มจาก นำริ้บบิ้นมาเย็บติด กับตัวปากช่องเพื่อไม่ให้ การบูรไหลออกมา
7. นำหัวตุ๊กตามาตกแต่ง โดยทาด้วยกาวร้อน และติดริบบิ้น ให้สวยงาม
8. รอให้กาวแห้ง และ บรรจุ พร้อมจำหน่ายได้




kalaboon การบูรหอม
โหลด VDO คลิก

งานพิมพ์รูปลงวัตถุต่าง ๆ - สกรีนเสื้อ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
50,000-70,000 บาท รวมเครื่องฮีทเพลท (Heat Plate), สี, พรินเตอร์, คอมพิวเตอร์

รายได้ : โดยประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อเดือน หากเป็นช่วงเทศกาลจะได้มากขึ้น

อุปกรณ์ :

1. คอมพิวเตอร์
2. Printer
3. ระบบหมึกดูราซับ
4. กระดาษปริ๊นพิเศษ
5. เครื่องรีดความร้อน
6. รูปภาพ

ขั้นตอน
1. ให้ลูกค้าเลือกรูป ที่ต้องการ พร้อมกับจะตกแต่งรูปตามต้องการ จะสกรีนลงบนเสื้อ
2. การตกแต่งจะใช้โปรแกรม Photoshop ในการทำให้ได้รูป ขนาด สีสัน ที่ต้องการ
3. สั่งงานพรินท์ภาพออกมาลงบนกระดาษ พิเศษสำหรับงานสกรีนเสื้อโดยเฉพาะ
4. เปิดเครื่องรีดความร้อน
5. ตั้งอุณหภูมิที่ 190 องศา และรอให้อุณหภูมิ ไล่ระดับขึ้นตามที่เราตั้งเอาไว้
6. ตั้งเวลาที่ 90 วินาที
7. วางเสื้อบนแท่นรีด และจัดทรงเสื้อให้เรียบ
8. สอดกระดาษแข็งเข้าไปในใต้เสื้อ และจัดให้อยู่จุดกึ่งกลางเพื่อให้งานออกมาตรงกลางไม่เบี้ยว
9. วางรูปที่เตรียมไว้ วางคว่ำลงบนเสื้อ ให้อยู่กึ่งกลางระวังเบี้ยวจัดให้ดีก่อน
10. พอเครื่องอุณหภูมิได้ที่แล้ว กดคันโยก ลงมาปั๊มเสื้อ
11. แล้วรอจนครบเวลาที่ตั้งเอาไว้
12. ยกแท่นสกรีนขึ้น ลอกกระดาษที่เราวางสกรีนเอาไว้ ออก
13. ก็จะได้เสื้อสกรีนตามต้องการ




paintshirt สกรีนเสื้อ พิมท์ถาพลงบนวัสดุต่างๆ
โหลด VDO คลิก

เครื่องบินโฟมบังคับ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
3,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 7,000 – 10,000 บาท/เดือน

อุปกรณ์ :

1. โฟมญี่ปุ่น
2. โฟมปอนด์
3. กาว
4. ไม้บราซา
5. กระดาษกาว OPP หลายขนาด
6. กระดาษทราย
7. คัตเตอร์
8. ชุด control
9. มอเตอร์ใบพัด
10.แบบชิ้นส่วน

ขั้นตอน
1. ใช้แบบแต่ละชิ้นส่วน วาดลงบนโฟม
2. ใช้คัตเตอร์ ทำการตัดตามแบบที่วาดไว้ ให้ออกมาเป็นแต่ละชิ้นส่วนของรอบตัวโครง
3. ทำการตัดปีกของเครื่องบิน โดยใช้ลวดความร้อน วางโฟมบนบล็อค และตัดตามแบบ
4. ทำการตัดส่วนหัวของเครื่องบิน โดยใช้ลวดความร้อนเช่นกัน วางโฟม และ นำแบบมาวางและตัดตามแบบ
5. การประกอบส่วนตัวลำของเครื่องปิน ทากาวบนไม้บราซาและแบบส่วนลำด้านข้าง
6. รอให้กาวแห้งหมาดๆ แล้ว ติดไม้ลงไปบนแบบส่วนลำด้านข้าง ทั้ง 2 ข้างทำเช่นเดียวกัน
7. ทากาวทุกชิ้นส่วน และทำการประกอบแต่ละชิ้นส่วน ส่วนลำเครื่อง ,ส่วนท้องเครื่อง
8. นำโฟมที่ตัดไว้แล้ว ประกอบส่วนหัว โดยทางกาวแล้วสอดใส่ไปส่วนด้านหัวของเครื่องบิน เพื่อเป็นการยึดส่วนหัวให้มีความหนาและแข็งแรง
9. ใช้คัตเตอร์กรีดตกแต่ง ขอบโฟมให้เรียบร้อย และใช้กระดาษทรายขัดโฟม ทั่วลำ เพื่อให้เนียนเรียบ
10. นำกระดาษกาว OPP มาตกแต่ง สีตามชอบ โดยติดกระจก รอบตัวเครื่องบิน ให้คล้ายกับของจริง ทำทั้งพื้นตัวลำ และ เดินเส้นเพิ่มสีสันให้กับตัวเครื่องบิน และส่วนปีกหลังเครื่องบิน
11. การตกแต่งตัวปีก ก็นำกระดาษกาว OPP มาตกแต่งสีสันให้ โทนเดียวกันกับลำเครื่องบิน ทำทั้ง 2 ชิ้น
12. ต่อปีกเครื่องบินเข้าด้วยกัน โดยเชื่อมด้วยการทากาว ใช้เทปใยสับปะรดเชื่อมปีกทับรอยต่อ และตกแต่งตรงที่เชื่อม ด้วยกระดาษกาว OPP
13. ทำการประกอบส่วนที่เป็นด้านท้ายเครื่องบิน ชิ้นที่เป็นหางเสือและปีก
14. เจาะรูกลางลำ ตรงส่วนที่มีไม้บราซา ให้ทะลุ และนำแท่งอะครีลิคเสียบเข้าไป
เพื่อสำหรับไว้ร้อยหนังยางรัดปีกให้ ติดกับลำของเครื่องบินได้
15. นำมอเตอร์ใบพัดมายึดติด ตรงส่วนกลางกับที่ปีกเครื่องบิน
16. ทำการเจาะฝังวงจร ตรงส่วนปีก
17. นำแบตเตอรี่ใส่เข้าไปที่หัว และ ทำการเชื่อมวงจรเพื่อทดสอบการติดตั้ง และพร้อมใช้งานได้
18. รัดปีก ปิดส่วนที่เป็นห้องเครื่อง ให้เรียบร้อย



binfoam ทำเครื่องบินบังคับวิทยุ จากโฟม
โหลด VDO คลิก

บริการต่อแทงค์หมึกอัตโนมัติ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,500 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 10,000-20,000 บาทต่อเดือน

อุปกรณ์ :

1.แท็งค์เก็บน้ำหมึก พร้อมสายน้ำหมึก
2.ชุดตลับหมึก
3.น้ำหมึก 4 สี
4.เข็มฉีดน้ำหมึก
5.อุปกรณ์ยึดติดสายน้ำหมึก
6.สายรัด
7.จุกกรองอากาศ ตัวล็อกสาย

ขั้นตอน
1.ประกอบชุดอุปกรณ์ เข้ากับหัวตลับหมึก และนำสายน้ำหมึก มาต่อที่หัวตลับหมึก
2.จะต้องมีการไล่สี สายที่ต่อกับแทงค์ ให้สีตรงกัน เสียบสายน้ำหมึกให้ตรงกับสี
*เสียบสายให้แน่น ป้องกันน้ำหมึกรั่ว
*ระวังอย่าให้สายหักมุม อาจจะทำให้น้ำหมึกขาดได้
3.ประกอบอุปกรณ์ ตัวล็อกเข้ากับตลับหมึก เพื่อเป็นการครอบล็อกสายน้ำหมึกให้อยู่ด้านใน
4.หลังจากประกอบเสร็จ ก็นำ ใช้เข็มดูดหมึกออกจากขวดหมึก
5.นำมาเติมลงในแท็งค์ ให้เกือบเต็ม จนครบทุกสี
6.การ ไล่สี ให้ไหลมาที่ตลับหมึก โดยการเปิดจุกเล็ก ด้านหลังเพื่อให้อากาศเข้าไปในแทงค์
และจะไล่อากาศเข้าหลอดหมึก ทำให้น้ำหมึกไหลไปเรื่อย ๆ
7.จะ ต้องมีการใช้เข็มช่วยดูดหมึก เอาจุกด้านหลังของตลับออก แล้วใช้เข็มดันเข้าไป
แล้วก็ดูดน้ำหมึกเข้ามาในเข็ม ก็จะทำให้มีหมึกไหลเข้ามา ก็จะทำให้ตลับหมึกเต็ม
8.นำเข็มออก แล้วก็ใช้ปลายไขควงอุดรูที่ตลับหมึกให้สนิท
9.นำหมึกที่เหลือในเข็ม กลับไปเติมลงในแท็งค์ (ทำ ข้อ 6-9 เช่นเดียวกัน กับการเติมหมึกสีอื่น ๆ )
*อย่าเปิดรูหน้า-หลังที่แท็งค์พร้อมกัน
*ไล่อากาศกลับด้วยการตะแคงแท็งค์หมึก
10.ถอดฝาครอบตลับหมึกของเดิมในเครื่องปริ๊นเตอร์ออก
*คำเตือน : การดัดแปลงแก้ไขเครื่องพิมพ์ จะทำให้ประกันเครื่องขาดทันที
11.วางแท็งค์น้ำหมึกไว้ด้านข้างของตัวปริ๊นเตอร์ และทำการจัดสายไล่ให้ถูกต้อง
12.บรรจุตลับหมึกลงในตัวล็อคของเครื่อง
13.ยึดล็อกสาย 3 จุดในตัวเครื่อง เพื่อให้สายน้ำหมึกอยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้เวลาหัวตลับหมึกวิ่ง
ขณะพิมพ์
14.เปิดเครื่องทดสอบ สั่งพิมพ์




inkrefilltank ติดแทงค์สีเครื่องพิมท์
โหลด VDO คลิก

เพ้นท์รองเท้าผ้าใบ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
1,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 10,000 – 15,000 บาท/เดือน

อุปกรณ์ :

1. ยางลบ
2. ดินสอ
3. พู่กัน
4. สีอะครีลิค
5. น้ำเปล่า
6. ผ้าเช็ดสี
7. รองเท้าผ้าใบ , รองเท้ากังฟู

ขั้นตอน
1. ผสมสีเพื่อใช้งาน ใช้สีแดง และ สีขาวมาผสมให้เป็นชมพูเข้ม และ สีชมพูอ่อน (สัดส่วนของสี 80 : น้ำ 20)
2. ใช้พูกันทา ลงสีพื้น ให้รอบรองเท้าผ้าใบ
3. รอให้สีแห้งสนิทก่อนการลงสีอื่นๆ หากระหว่างทาสีระวังอย่าให้พู่กันแห้ง ควรจุ่มน้ำเสมอ ๆ
4. ต่อจากนั้น ทำลายเป็นวงกลม ให้รอบ ๆ รองเท้า ใช้สีชมพูที่เข้มขึ้นมาเพื่อให้เกิดลวดลายบนรองเท้า
และควรจะต้องมีระยะ ห่าง สลับไปเรื่อย ๆ
5. เริ่มทำลายเส้น กราฟฟิค เพื่อเพิ่ม สีสันและ ลวดลายสวยงาม



shoespaint เพ้นรองเท้าผ้าใบ
โหลด VDO คลิก

ศิลปะบนแผ่นไม้ - ป้ายข้อความ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
20,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 40,000 – 50,000 บาท/เดือน

อุปกรณ์ :

1. ไม้ MDF ความหนา 6 มิลลิเมตร
2. กระดาษตัวต้นแบบ
3. กาว 2 หน้า
4. ดอกไม้ตาไก่
5. โซ่ไข่ปลา
6. กาวร้อน เฉพาะงานไม้
7. สีอะครีลิค
8. พู่กัน
9. เครื่องเลื่อยฉลุไม้
10.สีพลาสติก
11. โพลียูรีเทน เคลือบเงา

ขั้นตอนการทำป้ายเขียนข้อความ
1. ใช้กระดาษต้นแบบ วาดตามแบบลงบนไม้ MDF
2. นำไม้ไปวางที่เครื่องเลี่อยฉลุ แล้วใช้เครื่องตัดตามแบบที่ร่างไว้
3. ทำการเก็บขอบเพื่อให้เนื้อไม่เนียนเรียบ
4. ทำการเจาะรู ที่มาร์คเอาไว้ โดยใช้เครื่องเจาะ หรือ สว่านมือก็ได้ เจาะทั้งตัวม้าลาย และ แผ่นป้ายข้อความ
5. นำมาขัดด้วยกระดาษทราย เพื่อให้เนียนเรียบ งานจะได้เรียบร้อย
6. ลงสีพื้นป้าย ก่อน โดยวิธีทาก็เริ่มจากขอบก่อน แล้วค่อย ๆ
ทาสีไปให้ทั่วด้านหน้าให้ทางไปทางเดียวกัน ไม่ให้เป็นคลื่น จะต้องทาให้สีเรียบเสมอกัน
ทาเสร็จเรียบร้อย พักทิ้งไว้ให้แห้ง
7. เริ่ม การลงสีพื้นของตัวม้า เป็นสีขาว ลงสีตรงขอบก่อนแล้วค่อยๆ
มาลงสีที่ตัว ทาให้เป็นทางเดียวกัน และ ให้สีเนียนเรียบเสมอกัน พักทั้งไว้ให้แห้ง
8. พอแห้งใช้พู่กัน เบอร์ เล็ก ใช้สีดำ ลงลายละเอียดให้ตัวม้า ตามแบบที่ร่างเอาไว้
9. วาดลวดลาย และทาสีสัน ลงบนตัวม้า แต่งเติมสีที่ต้องการ
10. เริ่มทำแผ่นป้ายข้อความ โดยการลงสีขาว โดยใช้นิ้ว แตะสี
แล้วนำไปทาลงบนพื้นไม้ ให้เป็นรูปวงกลมรี แล้วรอให้สีแห้ง ก่อน
11. ใช้สีที่ตัดกับสีพื้น เขียนตัวหนังสือที่ต้องการ ตกแต่งลวดลายให้สวยงาม
12. กลับมาลงรายละเอียดบนหน้าม้าลาย แต่งหน้าตาด้วยสีดำ และ แต่งสีสันให้สวยงาม
13. รอให้สีแห้งพร้อมลงสารเคลือบยูรีเทรน
14. ตัวป้ายข้อความ และตัวม้าลาย ก็ต้องคว้านรู ตรงที่เจาะไว้ ด้วยคัตเตอร์
15.วางตาไก่ลงไปในรู พร้อมกับหยอดกาวร้อนแล้วกดลงไป และกดลงให้แน่น
16 .ทาสีพลาสติกเพื่อกันความชื้นที่ หลังของตัวม้าลาย และ ตัวป้ายข้อความ
17. ทิ้งให้แห้งแล้ว หยอดกาว และนำกาว 2 หน้า แปะกับชื้นไม้ MDF เล็ก ๆ รองไว้ด้วย
18. ร้อยโซ่ไขปลา เชื่อมระหว่างตัวม้าลาย กับป้ายข้อความ เป็นอันเสร็จสิ้น



mindwork ทำป้ายไม้น่ารักๆ
โหลด VDO คลิก

รับเลี่ยมกรอบพระ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
5,000 บาท

รายได้ : โดยประมาณ 20,000 – 30,000 บาท/เดือน

อุปกรณ์ :
1. เลื่อยฉลุ
2. เข็มฉีดน้ำยา & น้ำยาเชื่อมอะครีลิค
3. แปรงปัดฝุ่น
4. กรรไกร
5. คัตเตอร์
6. พู่กัน
7. น้ำยาทาขอบ
8. ก้อนขัดเงา
9. ตะไบท้องปลิง
10. ตะไบหางหนู
11. ตะไบสามเหลี่ยม
12. มอเตอร์หินไฟ
13. ตะเกียงจุดแองกอฮอล์
14. คีม
15. กระดาษทราย
16. สว่านมือ
17. แผ่นอะครีลิค ขนาด 2.5 มิล , 1 มิล

ขั้นตอน
1. วาดแบบที่จะสร้างกรอบพระ ลงบนแผ่นพลาสติกอะครีลิค
2. ใช้สว่านทำการเจาะรู 2 รู
3. ใช้เลื่อยฉลุ ทำการเลื่อยขอบนอกออก
4.ใช้ เลื่อยฉลุ อีกประเภทหนึ่ง โดยการใช้ใบเลื่อยร้อยเข้าไปกับรูที่เจาะไว้ และยึดขันเกียว
ใบเลื่อย จากนั้นทำการตัดขอบด้านใน ให้กรอบทะลุได้
5. ใช้ตะไบ โดยมีกระดาษทราย แต่งขอบ เพื่อลบความคม
6. ใช้กระดาษทรายละเอียดแต่ง อีกรอบ
7. ลอกกระดาษออก
8. ทำความสะอาดกรอบ โดยใช้น้ำเปล่ากับน้ำยาซัลไล ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาด
9. ทาน้ำยาอะครีลิค ที่ขอบด้านในของพลาสติกอะครีลิค
10. นำแผ่นพลาสติกอะครีลิค ไปปั่นเงา ที่เครื่องมอเตอร์หินไฟ
11. เช็ดกรอบให้สะอาด
12. นำแผ่นพลาสติกอะครีลิค ไปทำการลนไฟเพื่อให้อ่อนตัว
และนำมาครอบองค์พระไว้ หลังจากนั้นเมื่อพลาสติกเย็นตัวก็จะยึดติดกับองค์พระได้แน่น
13. ใช้แผ่นพลาสติกอันอื่น ที่เท่า ๆ พอกัน ทับกรอบพระอีกที แล้วทำการหนีบ เพื่อให้ยึดติดแน่น
14. ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีให้พลาสติกแข็งตัว
15. ขั้นตอนการทำกระจกปิดหน้า-หลัง นำแผ่นอะครีลิคขนาด 1 มิล ไปรนไฟให้อ่อนตัว
16. นำไปวางที่บล็อคแล้วกด เพื่อให้เกิดความนูน สำหรับทำกรอบปิดหน้าและหลัง ขององค์พระ
17. นำไปรนไฟอีกครั้ง และ นำมากดใส่บล็อครอบ 2 แต่ครั้งนี้ให้ใช้ปลายนิ้วและมีผ้ารอง
วนส่วนที่เว้าไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้กรอบพระมีความนูนที่เว้าโค้งมนสวยงาม
18. ใช้กรรไกร ตัดขอบออกและทำความสะอาด ใช้ผ้าเช็ด และ
แปรงปัดฝุ่นเพื่อเวลาอัดกรอบแล้วจะได้ความใสที่สวยงามไม่มีรอยเลอะฝุ่นได้
19. ทำการหนีบกรอบประกบองค์พระ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เข้าหากัน
20. ใช้น้ำยาเชื่อมอะครีลิคฉีดหยอดลงไป ระหว่าง แผ่นพลาสติก หน้าและหลังให้ติดกัน
21. ทำการหนีบแล้วทิ้งไว้ 5 นาที ให้น้ำยาแห้งสนิท
22. แกะตัวหนึบออก เจาะรู โดยใช้สว่าน อีกครั้ง
23. ทำการเจียขอบให้เรียบร้อย โดยใช้เครื่องมอเตอร์หินไฟ แต่งกรอบลบมุมต่าง ๆ ให้เนียนเรียบ
24. ใช้ตะไบแต่งขอบเก็บความเรียบร้อยอีกครั้ง
25. หลังจากนั้นก็ ทำการขัดเงา โดยใช้ ก้อนขัดเงา เป็นน้ำยา เพื่อช่วยให้เงายิ่งขึ้น



liamphra เลี่ยมพระ กรอปพระ
โหลด VDO คลิก

อาชีพช่าง รับทำกุญแจ

เงินลงทุนเริ่มต้น:
ประมาณ 35,000 บาท
เครื่องตัดแต่งลูกกุญแจ
ราคาประมาณ 20,000 - 40,000 บาท ,
หุ่นกุญแจ ราคาประมาณ 8,000 บาท )


รายได้ : ผลตอบแทนรายได้ 1,000 - 1,500 บาท/วัน

อุปกรณ์ :
เครื่องตัดแต่งลูกกุญแจ
หุ่นกุญแจ (ลูกกุญแจที่จะนำมาก็อปปี้)
โต๊ะ
ตะไบ
คีม
ไขควง
ค้อน
สว่านมือ

ขั้นตอนการทำลูกกุญแจ
1.ต้องดูหุ่น (กุญแจดอกที่จะทำการตัดแต่งให้เหมือนกับดอกที่ลูกค้านำมาให้ทำ) และดูร่องกุญแจ
หาดอกกุญแจตามออเดอร์ ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำในการจำ หาร่องเป็นแล้ว การทำกุญแจก็ง่าย
2.จากนั้นนำหุ่นกุญแจและต้นฉบับที่ลูกค้านำมาให้ทำเข้าเครื่องตัดทั้ง 2 ดอก นำกุญแจวางลงที่เครื่อง
3.เทียบระดับ ความสูง-ต่ำ ของดอก ให้เท่ากัน และบิดเกลียวยึดกุญแจให้แน่น
4.เริ่มต้นตัดกุญแจ ก็จะได้ร่องกุญแจที่เหมือนกัน
5.นำดอกที่เพิ่งตัดออกมาใช้ตะไบไถคมเหล็กให้เรียบลื่น เก็บงานให้เรียบร้อย ขั้นตอนนี้ใช้เวลาทำประมาณ 1-2 นาทีเท่านั้น

ข้อแนะนำ
* ใช้คีมตัดกุญแจให้พอดี
* หมั่นดูแลตั้งเครื่องให้แม่นยำ
* ทำความสะอาดทุกวัน
* ลงทุนให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า

ทำเลที่ตั้งร้าน ตลาด/แหล่งจำหน่าย หน้าหมู่บ้านจัดสรร ปากซอยที่มีคนอยู่หนาแน่น

เงินลงทุน อาจ จะดูพื้นที่ ร้านตั้งว่าชนิดกุญแจแบบไหนใช้กันเยอะก็สั่งปริมาณเยอะ บางชนิดใช้น้อยก็ไม่ต้องสั่งซื้อเก็บไว้มาก ซึ่งอาจจะช่วยในการลงต้นทุนการสั่งหุ่นกุญแจ

โหลด VDO สอนการประกอปอาชีฟฟรี
key อาชีฟช่างกุญแจ
โหลด VDO คลิก